- ขอบคุณภาพจาก ครูฝน Hari Om khonkaen
เคยได้ยินมาว่า เมื่อตั้งครรภ์แล้วคุณหมอมักจะแนะนำให้ออกกำลังกายน้อยลงหรือไม่ก็ให้งดออกกำลังกายไปเลย แต่ยังมีกีฬาอีกประเภทที่ยังใช้ออกกำลังกายได้ระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งนี้เพราะมีประโยชน์ต่อคุณแม่ นั่นก็คือโยคะนั่นเอง
การฝึกโยคะของคุณแม่สามารถเริ่มได้ตั้งแต่มีอายุครรภ์ประมาณ 14-16 สัปดาห์และสามารถฝึกต่อเนื่องยาวไปจนถึงสัปดาห์สุดท้าย ทั้งนี้ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเมื่ออายุครรภ์เพิ่มขึ้น
บรรเทาอาการไม่สบายๆที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ได้ การเจ็บปวดเนื้อตัว เจ็บปวดข้อ การเป็นตะคริว อาการคลื่นไส้ตอนเช้า เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ระหว่างตั้งครรภ์ทุกคน การฝึกโยคะสามารถบรรเทาอาการต่างๆนี้ได้ ทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวขึ้น ทำให้จิตใจโปร่งโล่งสบายขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ด้วย
ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกน้อยในครรภ์ การฝึกโยคะจะช่วยให้ร่างกายคุณแม่หมุนเวียนเลือดได้ดี ทำให้ส่งสารอาหารไปหล่อเลี้ยงลูกน้อยได้อย่างเต็มที่ จึงช่วยให้ลูกน้อยมีการเจริญเติบโตเต็มที่ตามอายุครรภ์ที่ควรจะเป็น
ช่วยปรับอารมณ์และจิตใจของคุณแม่ การฝึกโยคะจะช่วยฝึกสมาธิให้กับคุณแม่ไปในตัว ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ของคุณแม่คงที่ ลดการหวั่นวิตกจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
สร้างสังคมคุณแม่ การฝึกโยคะทำให้คุณแม่มีโอกาสพบเจอคุณแม่ท่านอื่น ซึ่งเป็นเรื่องดีที่คุณแม่มีโอกาสได้เจอกับคนอื่นที่มีสภาวะตั้งครรภ์เหมือนๆกัน ทั้งนี้จะทำให้คุณแม่ผ่อนคลายได้ เพราะสามารถพูดคุยสอบถามกับคุณแม่ท่านอื่นได้ตลอดเวลา ทั้งยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆเกี่ยวกับลูกน้อยได้อีกด้วย
คุณแม่คลอดง่าย การเล่นโยคะจะทำให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นและผ่อนคลาย โดยจะช่วยยืดเส้นเอ็นและข้อต่อต่างๆ ทำให้ลดการแข็งตึงของกล้ามเนื้อระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้คลอดง่ายขึ้น
ฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดได้เร็ว ร่างกายของคุณแม่ที่เล่นโยคะนั้น จะช่วยให้คุณแม่กลับมามีรูปร่างที่ดีเร็วขึ้น เพราะการเล่นโยคะระหว่างท้องจะช่วยลดหน้าท้องหลังคลอดได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังช่วยปรับระบบขับถ่าย และระบบหมุนเวียนเลือดให้กลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็วอีกด้วย มีตัวอย่างคุณแม่ในวงการบันเทิงหลายคนที่เล่นโยคะระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้หลังคลอดร่างกายฟื้นฟูเร็วมาก เป็นต้นว่า คุณแม่ลิเดีย คุณแม่ชมพู่ เป็นต้น
การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรดูแลทั้งเรื่องอาหารและออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เนื่องจากอาหารนั้นมีความสำคัญต่อลูกน้อยในท้อง ส่วนการออกกำลังกายนั้นสำคัญต่อความแข็งแรงของร่างกายคุณแม่ การดูแลสองอย่างควบคู่ไปจะทำให้ได้สุขภาพของทั้งคุณแม่และคุณลูกไปพร้อมๆกัน